บทที่ 2 ตอนที่ 2

“นังแก้ว แกนี่มาช้าตลอดเลยนะ เห็นไหมว่าในครัวยุ่งแค่ไหน”

ป้าสมศรีส่งเสียงตำหนิทันทีเมื่อเห็นหล่อนเดินเข้ามาภายในห้องครัว

“เอ่อ... แก้วขอโทษค่ะ”

“มึงก็ขอโทษทุกทีนั่นแหละ ตั้งกี่ปีมาแล้วก็พูดแต่คำเนี้ย”

ป้าแม่ครัวใหญ่พูดอย่างเบื่อหน่าย หล่อนทำได้แค่ก้มหน้าไร้โอกาสโต้แย้ง

“มาๆ เลย มาช่วยล้างหม้อนี่ เดี๋ยวจะต้องเคี่ยวน้ำซุป”

“จ้ะป้า”

หล่อนก้มหน้าก้มตาทำตามคำสั่ง ในขณะที่ภายในห้องครัวเกิดเสียงสนทนาขึ้นเมื่อบัวคำ สาวน้อยคนหนึ่งเดินเข้ามา

“นี่แกรู้ไหมว่าคืนนี้จะมีมหาเศรษฐีมาใช้บริการที่นี่”

“จริงเหรอนังบัว”

“จริงสิ กูจะหลอกมึงทำไมอีเอื้อง แล้วเขาก็ร่ำลือกันว่าหล่อมากด้วยนะโว้ย”

สองสาวที่เมื่อก่อนเคยทำหน้าที่รับแขกอยู่หน้าร้าน แต่ตอนนี้สภาพร่างกายอวบอ้วนจึงถูกปลดระวางมาทำงานในห้องครัวแทน

“ว้า! เสียดายจัง ถ้าเป็นเมื่อก่อน เราสองคนจะต้องได้รับเลือกไปปรนนิบัติแน่ๆ”

“พวกมึงเลิกพล่ามได้แล้ว อ้วนยังกับหมูตอนยังจะมีหน้าอยากจะไปปรนนิบัติแขกอีก มานี่... มาหั่นคะน้าให้กูนี่ กูจะต้องรีบใช้ เร็วเข้า”

ป้าสมศรีพูดขึ้นอย่างหมั่นไส้

“แหม ป้าศรีก็... ฉันฝันบ้างไม่ได้หรือไงล่ะ” เอื้องฟ้าตัดพ้อหญิงวัยกลางคนที่รูปร่างอ้วนไม่แพ้กันเสียงออดอ้อน

“จะฝันเอาไว้ตอนนอนนู่น ตอนนี้มาทำงาน เดี๋ยวทำอาหารไม่ทัน กูถูกเจ้นุชเล่นงานเละ” ป้าสมศรียังคงแสดงท่าทางเกรี้ยวกราดดุดันตามนิสัย

เอื้องฟ้ากับบัวคำเบ้ปากและกลอกตามองบนอย่างเบื่อหน่าย แต่ก็ไม่อยากมีเรื่องกับแม่ครัวใหญ่ จึงต้องยอมทำตามคำสั่ง

“ทำก็ได้จ้า... ไหนล่ะ คะน้าอยู่ไหน”

บัวคำเดินมาหยุดที่โต๊ะกลางห้องครัว มองหาต้นคะน้า

“ในตู้เย็นไงล่ะนังบัว นี่มึงจะต้องให้กูหยิบมาประเคนมึงถึงที่หรือไง” ป้าสมศรีหันมาด่ากราด

บัวคำเบ้ปากอย่างไม่พอใจ ก่อนจะหันไปจิกหัวเรียกร้อยแก้ว

“นังแก้ว มึงไปหยิบคะน้าออกมาจากตู้เย็นให้กูหน่อย เร็วเข้า”

ร้อยแก้วจำต้องละมือจากการล้างหม้อใบใหญ่ และเดินไปที่ตู้เย็นหยิบผักคะน้าถุงใหญ่ออกมาให้กับบัวคำตามคำสั่ง

“นี่จ้ะพี่บัว”

บัวคำพยักหน้ารับหงึกๆ ก่อนจะผายมือไล่

“วางไว้ตรงนั้นแหละ แล้วก็ไปที่อื่นได้แล้ว เห็นหน้ามึงแล้ว กูตกใจ”

“มึงตกใจอะไรวะอีบัว”

เอื้องฟ้าเดินเข้ามาหยุดใกล้ๆ กับบัวคำ และพากันจ้องมองหน้าดำๆ ของร้อยแก้ว

บัวคำหัวเราะคิกคัก

“นี่มึงต้องให้กูพูดจริงๆ เหรออีเอื้อง”

“มึงก็พูดมาสิ เผื่อนังแก้วมันจะยังไม่รู้ตัวน่ะ”

ร้อยแก้วทำได้แค่เพียงก้มหน้า และเดินกลับไปล้างหม้อเงียบๆ เก็บความน้อยเนื้อต่ำใจเอาไว้ในอก

“ก็ตกใจที่หน้าของนังแก้วมันดำ เหมือนผียังไงล่ะ”

“ผี...” เอื้องฟ้าหัวเราะลั่น ก่อนจะพูดต่อ “กูว่าผีแม่งยังน่ากลัวน้อยกว่าหน้าอีแก้วอีก อีบัวมึงกว่าไหม”

สองสาวอวบอ้วนหัวเราะลั่นห้องครัว จนป้าสมศรีต้องเอาทัพพีอันใหญ่เหวี่ยงใส่กลางวง

เพล้ง...

“ว้ายยย ป้าศรีทำอะไรเนี่ย” บัวคำสะดุ้งโหยงตกใจเมื่อจู่ๆ ทัพพีลอยมาตรงหน้า เกือบถูกหัว

“นั่นสิป้าศรี นี่ถ้าฉันหลบไม่ทัน หัวแตกมาทำยังไงล่ะ” เอื้องฟ้าบ่นอุบอย่างไม่พอใจ

ป้าสมศรีหันหน้ามายืนเท้าสะเอวมอง

“แล้วพวกมึงล่ะ ผีเจาะปากมาพูดหรือไง ไปว่านังแก้วมันทำไม ปมด้อยของคนอื่นน่ะชอบขุดจังนะ นังพวกผีเปรต”

“อ้าวๆๆๆ นี่ป้าศรีเดือดร้อนแทนนังแก้วมันหรือไงเนี่ย”

บัวคำถามอย่างโมโห

“กูไม่ได้เดือดร้อนแทนใครหรอก แต่กูทนฟังคำพูดสกปรกจากปากเน่าๆ ของพวกมึงไม่ได้ แล้วถ้าพวกมึงไม่หุบปากนะ กูจะเอาน้ำร้อนนี่กรอกปากพวกมึง คอยดูสิ!”

“ป้าศรี!”

“ทำไมอีบัว มึงคิดว่ากูไม่กล้าหรือไง” ป้าสมศรีหันไปคว้ากาต้มน้ำร้อนมาไว้ในมือ

“พอเถอะนังบัว ปล่อยป้าศรีแกไปเถอะ” เอื้องฟ้าเห็นว่าป้าสมศรีจะเอาจริง เลยเตือนสติเพื่อน

“เอ่อ... หยุดก็ได้วะ” บัวคำก็เก่งแต่ปากเท่านั้นเอง

“จำเอาไว้อย่าคิดลองดีกับกู เพราะในครัวกูใหญ่สุด”

ป้าสมศรีมองสองลูกมือของตนเองด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะหันกลับไปจัดการกับหม้อใบใหญ่ที่กำลังเคี่ยวอาหารอยู่ภายในตามเดิม

บัวคำกับเอื้องฟ้าทำปากขมุบขมิบแต่ไม่กล้าออกเสียง ในขณะที่ ร้อยแก้วทำได้แค่เพียงก้มหน้าล้างหม้อไปเงียบๆ

“ท่านก็รู้ว่าซ่องของฉันไม่ได้รับเด็กใหม่มาตั้งนานโขแล้ว แล้วแบบนี้ฉันจะไปเอาสาวพรหมจรรย์ที่ไหนมาต้อนรับลูกค้าของท่านกันล่ะ ไม่มีหรอก ฉันหาไม่ได้แน่ๆ” เจ้นุชกรอกน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความหงุดหงิดไปตามสายของลูกค้ารายใหญ่

“นั่นมันหน้าที่ของเจ้ หรือว่าจะให้ผมนำตำรวจเข้าไปจับเจ้กันล่ะ โทษฐานที่เปิดภัตตาคารแต่แอบแฝงค้าบริการน่ะ”

เสียงท่านผู้มียศใหญ่ปลายทางข่มขู่มา ทำให้เจ้นุชถึงกับหน้าซีดเผือด

“งั้นฉันจะหาสาวสวยที่รับแขกน้อยที่สุดให้ก็แล้วกัน แต่ซิงๆ น่ะ หาไม่ได้หรอก” เจ้นุชแบ่งรับแบ่งสู้

“ไม่ได้ ลูกค้ารายนี้เป็นลูกค้ารายใหญ่มาก ผมต้องการทำให้เขาประทับใจที่สุด เพราะงานนี้ผมพลาดไม่ได้”

“แต่ว่าท่านคะ...”

“ไปจัดการตามที่ผมบอก ไม่อย่างนั้นก็เตรียมปิดไอ้ภัตตาคารสีเทาของเจ้ได้เลย”

เมื่อคนปลายสายตัดสายสนทนาไปแล้ว เจ้นุชก็ถึงกับยกมือขึ้นกุมหัวด้วยความมึนตึบ

“แล้วนี่อั๊วจะไปหาสาวซิงๆ ที่ไหนมาให้ลื้อได้ล่ะ” เจ้นุชถอนใจยาวเหยียดสีหน้าเคร่งเครียดยิ่งนัก

“เข้ามา”

บทก่อนหน้า
บทถัดไป